ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ แถลงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน พฤศจิกายน 2564 ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา จากระดับ 66.92 จุด มาอยู่ที่ระดับ 68.74 จุด เพิ่มขึ้น 1.82 จุด หรือคิดเป็น 2.72% โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นมานั้น มาจากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในสหรัฐฯ การอ่อนค่าของเงินบาทหนุนราคาทองในประเทศ และความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
คาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำในช่วงเดือน พฤศจิกายน 2564 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 288 ตัวอย่าง พบว่า 50% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำในเดือนนี้หรือไม่ ขณะที่ 38% จะซื้อทองคำ และอีก 12% ยังไม่ซื้อทองคำ
สรุปกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 13 ตัวอย่าง โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน พฤศจิกายน 2564 จะเพิ่มขึ้น มีจำนวน 7 ราย และคาดว่าจะลดลง มีจำนวน 3 ราย ส่วนที่คาดว่าใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือน ตุลาคม 2564 มีจำนวน 3 ราย
สำหรับการคาดการณ์ราคาทองคำในเดือน พฤศจิกายน 2564 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ดังนี้ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,727 – 1,851 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 27,550 – 28,950 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ และด้านค่าเงินบาท ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 32.83 – 33.73 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ
การลงทุนทองคำในเดือน พฤศจิกายน 2564 ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ให้ความเห็นว่า หลังจากราคาทองในเดือนที่ผ่านมาไม่สามารถสร้างระดับสูงสุดใหม่จากเดือนก่อนหน้าได้ แสดงให้เห็นถึงแรงขายที่เพิ่มสูงขึ้น จึงแนะนำจับตาแรงขายทำกำไรที่สลับออกมาว่ามากน้อยเพียงใด หากแรงขายไม่มากอาจเป็นเพียงการอ่อนตัวลงเพื่อสะสมกำลัง ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยประเมินแนวรับอยู่ที่บริเวณ 1,745 - 1,721 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ หากยืนได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาจะค่อย ๆ ขยับขึ้นทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 1,821 - 1,833 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ แต่หากผ่านแนวต้านดังกล่าวไม่ได้ราคาอาจอ่อนตัวลงทดสอบกรอบแนวรับด้านล่างอีกครั้ง ทั้งนี้ นักลงทุนควรวางแผนการลงทุนอย่างรอบครอบ
Download รายงานศูนย์วิจัยทองคำประจำเดือน พฤศจิกายน 2564 ฉบับเต็มได้ที่นี่