*** หมายเหตุ : ราคารับซื้อคืนทองรูปพรรณ ตามหลักเกณฑ์ สคบ.กำหนดให้ร้านทองสามารถหักได้ไม่เกิน 5% จากราคาทองคำแท่งรับซื้อในวันนั้น ๆ ทั้งนี้หลักเกณฑ์ดังกล่าวใช้เฉพาะกรณีซื้อ-ขายร้านเดิมเท่านั้น ***

ความนิยมและเทรนด์ 'เครื่องประดับทอง' ทั่วโลก

ณ วันที่ 20/11/2568

จากบทความการเติบโตของตลาดเครื่องประดับแท้ในโลกที่เปลี่ยนไปของ คุณวาสนา สมเนตร์ ที่เผยแพร่ใน GIT Jewelry Journal ฉบับที่ 2/2025 ได้ระบุถึงภาพรวมความนิยมและเทรนด์ทองคำในตลาดโลก โดยชี้ว่า EIN Presswire คาดการณ์ในปี 2025 ว่าตลาดเครื่องประดับทั่วโลกจะมีรายได้สูงถึง 370,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 5.02% ระหว่างปี 2025-2029 โดยที่เครื่องประดับทอง ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด

 

ในบทความดังกล่าว ยังระบุว่า เครื่องประดับทองไม่ได้มีเพียงแค่มูลค่าทางเศรษฐกิจและการลงทุน เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของ ตัวตน รสนิยม และเสน่ห์ทางศิลปะ โดยประเภทที่ได้รับความนิยมในตลาด ได้แก่ เครื่องประดับทองคำ 24K, 22K, 18K และ 14K

 

ภาพรวมมูลค่าตลาด

 

จากรายงานของ Research and Markets ได้ประมาณการตลาดเครื่องประดับทองของโลก เติบโตจาก 244,430 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2024 มาเป็น 256,620 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2025 โดยคาดว่าจะแตะระดับ 333,240 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2030 หรือเติบโตอัตราเฉลี่ย ราว 5.30% ต่อปี

 

ความนิยมและเทรนด์เครื่องประดับทองของแต่ละภูมิภาค

 

1.สหรัฐอเมริกา

ตลาดเครื่องประดับทองในสหรัฐฯ ถือเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่และมีความหลากหลายที่สุดในโลก ผู้บริโภคชาวอเมริกันให้ความสำคัญกับทั้งคุณค่าทางการลงทุน และความสวยงามในเชิงแฟชั่น

 

โดยทองคำแท้ 24K จะได้รับความนิยมในกลุ่มนักลงทุนและผู้ซื้อจากชุมชนเอเชีย ขณะที่ทอง 18K และ 14K เป็นที่นิยมในงานออกแบบร่วมสมัย และเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เนื่องจากมีความทนทานสูง

 

นอกจากนี้ แบรนด์ชั้นนำในสหรัฐฯ ยังได้เพิ่มความสำคัญกับการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ การรับรอง แหล่งที่มาของทองคำ (responsibly sourced) และการนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ 

 

2.ยุโรป

  2.1 ยุโรปตะวันตก (อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี)

ผู้บริโภคเน้นความเรียบง่ายอย่างมีระดับ และการออกแบบร่วมสมัยที่กลมกลืนกับไลฟ์สไตล์ เครื่องประดับแนวมินิมอลที่สามารถสวมใส่ได้ทุกวันจึงได้รับความนิยมสูง

 

  2.2 ยุโรปตะวันออก

เป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีแนวโน้มชื่นชอบเครื่องประดับที่โดดเด่น หรูหรา ด้วยดีไซน์ที่มีความวิจิตร เช่น การฝังอัญมณี และงานออกแบบที่เน้นความโอ่อ่า ซึ่งสะท้อนรสนิยมที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมกับความทันสมัย

 

3.ตะวันออกกลาง 

เครื่องประดับทองยังคงครองตำแหน่งสูงสุดในด้านความนิยม โดยเฉพาะ 22K และ 24K เนื่องจากมีคุณค่าทางวัฒนธรรมสูง และมีบทบาทสำคัญในพิธีกรรมทางศาสนา รวมถึงการเป็นของขวัญในโอกาสสำคัญ เช่น งานแต่งงาน โดยนิยมเครื่องประดับที่มีความวิจิตร ประณีต และสะท้อนถึงอัตลักษณ์ของแต่ละภูมิภาคอย่างชัดเจน

 

4.เอเชีย

  4.1 อินเดีย

อินเดียยังคงเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยยังคงรักษาความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับสร้อยข้อมือ สร้อยคอ และคอลเลกชั่นสำหรับเจ้าสาว

 

  4.2 จีนและญี่ปุ่น

ทั้งสองประเทศจะแสดงความสนใจในชิ้นงานที่มีการผสมผสานสมัยใหม่ และให้ความสำคัญกับแบรนด์หรูเฉพาะกลุ่ม

 

โดยสรุปแล้ว ตลาดเครื่องประดับทองกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยปัจจัยที่หลากหลาย ตั้งแต่บทบาทในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยไปจนถึงการเป็นสินค้าแฟชั่นที่ยั่งยืน แบรนด์หรูระดับไอคอนิกต่างใช้ประโยชน์จาก มรดกทางวัฒนธรรมที่สั่งสมมายาวนาน และความเชี่ยวชาญในงานฝีมือที่เป็นเลิศ 

 

เพื่อสร้างความโดดเด่นในตลาดระดับพรีเมียม ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถกำหนดราคาที่สูงและรักษาฐานลูกค้าชั้นดีไว้ได้อย่างมั่นคง ตอกย้ำว่า ทองคำยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องประดับที่มีเสน่ห์และความหมายเหนือกาลเวลาอย่างแท้จริง

 

อ้างอิงข้อมูลจาก

ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) : https://infocenter.git.or.th/storage/free_publications/QgPqAIakkpk5MIGqMVhaGJGPnA3ElENymxS89NDr.pdf