หลังจากที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ย้ำเตือนให้ผู้ประกอบการร้านค้าทองคำ ให้ความสำคัญกับการนำส่งข้อมูลเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของท่าน (เช่น ข้อมูลการจดทะเบียน ขนาดกิจการ ลักษณะผลิตภัณฑ์และบริการ ช่องทางการให้บริการ การควบคุมความเสี่ยง เป็นต้น)
เพื่อประกอบการประเมินความเสี่ยงด้านการฟอกเงิน และการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ผ่านระบบสารสนเทศเพื่อการประเมินความเสี่ยงและบริหารจัดการคดีของผู้มีหน้าที่รายงาน (Risk Assessment and Case Management for Reporting Entities System : AMRAC)
ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ประกอบการบางส่วนให้ความร่วมมือส่งข้อมูลดังกล่าวในระบบ AMRAC แล้ว แต่ยังมีผู้ประกอบการอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ดำเนินการ
พ.ต.ท.ชัยชนะ กาญจนะคช ผู้อำนวยการส่วนกำกับ และตรวจสอบ 7 กล่าวว่า ล่าสุด สำนักงาน ปปง. ได้ออกประกาศ เรื่อง แนวทางการส่งข้อมูลการประเมินความเสี่ยงเกี่ยวกับ การฟอกเงินหรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง เพื่อประโยชน์แก่การกำกับและตรวจสอบผู้มีหน้าที่รายงาน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ให้ผู้ประกอบอาชีพค้าอัญมณี เพชรพลอย ทองคำ หรือเครื่องประดับที่ประดับด้วยอัญมณี เพชรพลอย หรือทองคำ ส่งข้อมูลการประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการฟอกเงินหรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
ผ่านระบบสารสนเทศเพื่อการประเมินความเสี่ยงและบริหารจัดการคดีของผู้มีหน้าที่รายงาน (Risk Assessment and Case Management for Reporting Entities System: AMRAC) มายัง สำนักงาน ปปง. ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ทั้งนี้ ท่านสามารถเข้าใช้งานระบบ AMRAC ผ่านเว็บไซต์ https://amrac.amlo.go.th/AMRAC/
2. หากท่านใดมีเหตุขัดข้องหรือไม่สามารถส่งข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินความเสี่ยง ผ่านระบบ AMRAC หรือประสงค์จะปฏิเสธว่าท่านมิได้เป็นผู้ประกอบอาชีพค้าอัญมณี เพชรพลอย ทองคำ หรือเครื่องประดับที่ประดับด้วยอัญมณี เพชรพลอยหรือทองคำ ให้ท่านแจ้งสำนักงาน ปปง. เป็นหนังสือพร้อมแนบหลักฐานประกอบภายในกำหนดเวลาตามข้อ 1.
3. หากท่านไม่ดำเนินการ ภายในระยะเวลาที่กำหนด อาจถูกพิจารณาว่ามีความเสี่ยงสูงด้านการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่อาจใช้อำนาจตามมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
โดยมีหนังสือสอบถาม หรือเรียกให้ท่านมาให้ถ้อยคำ ส่งคำชี้แจงเป็นหนังสือ ส่งเอกสาร หรือหลักฐานใดๆ มาเพื่อตรวจสอบหรือเพื่อประกอบการพิจารณา รวมทั้ง การเข้าตรวจสอบ ณ สถานประกอบการของท่าน และหากพบว่าท่านไม่ได้ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด ก็จะพิจารณาดำเนินคดีกับท่านตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.ท.ชัยชนะฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาได้มีผู้ประกอบการหลายรายประสบปัญหาเกี่ยวกับการลงทะเบียนเข้าใช้ระบบ AMRAC ซึ่งทางสำนักงาน ปปง. ได้จัดเตรียมช่องทางการแนะนำและให้ความช่วยเหลือไว้ในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดอบรม หรือการให้ความรู้ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถโทรสอบถาม หรือติดตามข้อมูลผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของสำนักงาน ปปง.
ในประเด็นของ “บุคคลที่ถูกกำหนด” (Desinated Person) ซึ่งเป็นคำที่ปรากฎในบทนิยามของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายของอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
พ.ต.ท.ชัยชนะฯ เน้นย้ำว่า ไม่ว่าสถาบันการเงินหรือผู้มีหน้าที่รายงานตามมาตรา 16 ซึ่งรวมถึงร้านค้าทอง จะไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆ ด้วยได้เลย โดย “บุคคลที่ถูกกำหนด” นั้น สำนักงาน ปปง. ได้มีการประกาศรายชื่อให้ทราบผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของสำนักงานฯ หากผู้ประกอบการเข้าไปดู จะพบว่า มี 2 บัญชีหลักๆ คือ UN List และ Thai List
ทั้งนี้ ร้านค้าทองจะต้องตรวจสอบลูกค้าว่ามีรายชื่อตรงกับบุคคลที่ถูกกำหนดหรือไม่ หากลูกค้าเป็นบุคคลที่ถูกกำหนดแล้ว นอกจากจะต้องปฏิเสธการทำธุรกรรมแล้ว ยังจะต้องรายงานธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย และต้องรายงานการตรวจพบบุคคลที่ถูกกำหนด และ/หรือรายงานทรัพย์สินตามเงื่อนไขของกฎหมายกำหนด
ซึ่งจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก โดยวิธีการตรวจสอบนั้น ผู้ประกอบการร้านค้าทองคำควรสมัครระบบ APS ซึ่งเป็นระบบเพื่อตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดฯ ที่สำนักงาน ปปง. จัดทำขึ้น โดยจะทำให้การตรวจสอบรายชื่อง่ายขึ้น เพียงใส่เลขที่บัตรประชาชน หรือหมายเลขหนังสือเดินทาง ระบบก็จะตรวจสอบทันที
ทั้งนี้ ในขั้นตอนการสมัครระบบ APS นั้น ฝ่ายที่ควบคุมระบบจะขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับร้านค้าทองคำ เพื่อตรวจสอบและยืนยันว่าเป็นผู้มีหน้าที่รายงานตามมาตรา 16(2) ซึ่งจะไม่เปิดให้ใช้โดยทั่วไป
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ชัยชนะฯ ยังได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการร้านค้าทองคำให้ความสำคัญกับการส่งข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินความเสี่ยง ผ่านระบบ AMRAC และตรวจสอบข้อมูลลูกค้าก่อนการทำธุรกรรมการซื้อขายทุกครั้ง การทำ KYC/CDD ให้ครบถ้วนถูกต้อง รวมถึงจัดอบรมพนักงานในร้านอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกใช้เป็นช่องทาง หรือเป็นเครื่องมือในการฟอกเงินของเหล่ามิจฉาชีพโดยไม่ตั้งใจ





ที่มา: วารสารทองคำ ปีที่ 21 ฉบับที่ 76 เดือน เมษายน - มิถุนายน 2567